งูเข้าบ้านแล้วต้องทำอย่างไร
มาดูวิธีไล่งู เมื่องูเข้าบ้านสิ่งแรกเลยที่ควรมีคือ “สติ” ว่าจะทำอย่างไรต่อ ไม่ควรตกใจ เพราะอาจทำให้เหตุการณ์บานปลาย สิ่งที่ควรทำคือ
1. สังเกตประเภทของงู
การสังเกตว่างูมีพิษหรือมีพิษนั้น จริง ๆ แล้วแยกแยะได้ยาก แต่อาจสังเกตได้จากลักษณะเด่นของงูมีพิษ เช่น งูเห่า หรืองูจงอาง จะแผ่แม่เบี้ย งูสามเหลี่ยม ลำตัวจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ส่วนงูเขียวหางไหม้และงูกะปะมีลักษณะแก้มป่อง ตัวสั้น มีเกล็ดละเอียด แต่หากไม่รู้จริง ๆ ให้สันนิษฐานก่อนเลยว่าเป็นงูมีพิษ
2. คอยดูด้วยระยะที่ปลอดภัย
งูเหล่านี้ ก็กลัวคนเช่นกัน ถ้าหากเราไม่เข้าใกล้เกินไป งูเหล่านี้จะไม่เข้ามาทำร้าย คอยสังเกตว่างูกำลังจะไปในทิศทางไหน เพื่อจะได้ชี้นำการจับได้ง่ายขึ้น หากงูเคลื่อนเข้าหาให้ค่อย ๆ เคลื่อนไหวช้า ๆ ถอยหลังไปในทิศทางอื่น ด้วยความระวัง ไม่ควรวิ่ง ไล่ หรือขว้างปาสิ่งของ งูจะได้ไม่ตกใจและพุ่งเข้าทำร้าย
3. ขอความช่วยเหลือ
ถ้าไม่มีประสบการณ์ หรือไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการจับ ควรโทรเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
– โทร. 199 สำหรับแจ้งอัคคีภัยและสัตว์เข้าบ้าน
– โทร. 1677 รายการวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน
– โทร. 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หากโดนกัด
วิธีป้องกันงูไม่ให้เข้าบ้าน
คงไม่มีใครอยากให้งูเข้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นงูมีพิษ หรืองูไม่มีพิษ ลองมาดูว่างูกลัวอะไร ลองมาดูวิธีป้องกันงูไม่ให้เข้าบ้าน ดังนี้
- การจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบ หรือไม่เก็บของเกินความจำเป็น เพื่อลดพื้นที่เสี่ยงที่งูจะเข้ามาอยู่อาศัย
- ดูแลต้นไม้ และสวนหย่อม ให้เรียบร้อย ไม่ให้หญ้ายาว ต้นไม้รก เป็นที่พรางตัวของงู
- ทำความสะอาดรอบบ้านอยู่เสมอ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของตัวบ้าน ว่ามีอะไรผิดสังเกต ชำรุดเสียหายหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการตรวจตา ไม่ให้เป็นที่ ๆ เหมาะให้งูมาอาศัย
- ถ้าถามว่างูกลัวอะไร ก็คงหนีไม่พ้นสารเคมีที่มีกลิ่นฉุน เช่น น้ำมันก๊าด ราดรอบ ๆ บริเวณที่ไม่ต้องการให้มีงูเข้ามาอยู่ แต่ระมัดระวังเวลาราดอาจพบงูที่มีอยู่แล้วออกมาจากที่หลบซ่อนได้
- ใช้ผงกำมะถันผสมน้ำ ราดบริเวณรอบบ้าน ทำอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้กำมะถันเจือจาง
ที่มา: ddproperty