ต้องยอมรับว่า ระบบขนส่งสาธารณะที่สำคัญต่อคนกรุงมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือบรรดารถไฟฟ้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดิน MRT หรือจะเป็นรถไฟฟ้า Airport Link ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และสมควรจะพัฒนาต่อยอดไปให้ทั่วกรุงให้ได้เร็วที่สุด มาพูดถึงโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟ ซึ่งอันดับหนึ่งเลยก็คือ ‘ตกลงไปในราง’ นั่นเอง
ถ้าสมมติว่าคุณบังเอิญตกรางรถไฟไปจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถไฟอะไรก็ตาม คุณจะมีวิธีเอาตัวรอดอย่างไรล่ะ ?
1. สิ่งที่คุณไม่ควรทำ
อย่าพยายามเหยียบรางหรือเหยียบอะไรซี้ซั้ว ถ้าเป็นรถไฟฟ้า คุณอาจเจอกับรางไฟฟ้าที่ช๊อตคุณให้ถึงตายได้ (ถ้ามีฉนวนป้องกันก็โชคดีไป) แต่เราไม่ควรเชื่อใจว่ารถไฟฟ้าทุกประเภทจะปลอดภัย ดังนั้นการหลีกเลี่ยงไปเหยียบส่วนต่างๆ ของรางเป็นการดีที่สุด
การปีนขึ้นมาเอง คุณอาจเสียเวลามากเกินไปหากไม่มีคนมาช่วยคุณ หรืออาจหงายเงิบกลับลงไปเจ็บหนักกว่าเดิม ซึ่งคุณต้องแน่ใจว่ามันเตี้ยพอที่จะปีนขึ้นได้เองหรือมีคนคอยช่วยอยู่ข้างบน
2. สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรก
รีบขึ้นมาถ้าสามารถทำได้ แต่ถ้าชานชาลาสูงเกินไป ให้วิ่งไปทางเดียวกับทิศทางที่รถไฟวิ่งไป ให้พ้นระยะที่รถไฟจอด ในเวลาเดียวกัน ให้ตระโกน ‘ช่วยด้วย’ สุดเสียงแบบไม่ต้องอายใคร เพราะถึงเวลานี้ คุณไม่มีอะไรจะเสียแล้ว และสำหรับรถไฟบางแห่ง จะมีที่เหยียบให้คุณปีนขึ้นมาได้
3. ถ้ารถไฟมาถึงแล้วล่ะ ?
คุณมี 2 ทางเลือก ณ ตอนนี้ ทางเลือกแรกคือ การมองหาช่องว่างใต้ชานชาลา เพราะสถานีรถไฟบางแห่งมีช่องว่างฉุกเฉินเอาไว้เพื่อหลบเข้าไปในนั้นได้
แต่สำหรับสถานีรถไฟบางแห่ง อาจไม่มีช่องว่างฉุกเฉินนี้ ทางเลือกสุดท้ายคือการนอนหมอบไปตามรางรถไฟ ซึ่งภายในรางส่วนมากจะมีช่องว่างพอให้คุณนอนลงไปได้ประมาณครึ่งเมตร และอย่าลืมเก็บศีรษะและมือของคุณให้มิดชิดที่สุด
และนี่ก็ถือเป็นวิธีการเอาตัวรอดจากการตกลงไปในรางรถไฟ ซึ่งการรู้จักทางหนีทีไล่เอาไว้ สักวันหนึ่งมันอาจช่วยชีวิตคุณหรือคนใกล้ตัวก็เป็นได้ แต่ทางที่ดีคือการมีสติและไม่ประมาทเป็นการดีที่สุด
ที่มา : brightside
